“ป่าไม้ถาวร” ไม่มีกฏหมายกำหนดไว้โดยตรงว่าให้เป็นป่าอีกประเภทหนึ่งแตกต่างไปจากป่าที่มีกฏหมายกำหนดไว้ เช่น ป่าสงวนแห่งชาติ เป็นต้น
แต่ “ป่าไม้ถาวร” นี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พ.ย 2504 ที่ได้มีมติเห็นชอบด้วยตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย
ที่เสนอขออนุมัติให้มีการจำแนกประเภที่ดินในเขตจังหวัดต่างๆ โดยได้จำแนกที่ดินออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ที่ดินที่เป็นเขตป่าที่จะทำการสงวนคุ้มครองไว้เป็นสมบัติของชาติโดยถาวรสืบไป(ป่าไม้ถาวร) และ
- ที่ดินบริเวณใดที่จะไม่สงวนไว้เป็นป่าก็กำหนดให้เป็นเขตที่จะเปิดจัดสรรเพื่อเกษตรกรรม และเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างอื่น
กระทรวงมหาดไทยได้รายงานผลดำเนินการของคณะกรรมการสำรวจจะแนกประเภทที่ดินประจำจังหวัดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่ 9911/2504
ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2504 ว่า
เขตป่าสงวนคุ้มครอง ในท้องที่ 60 จังหวัด ประมาณ 1,300 แปลง เนื้อที่ประมาณ 279,689.76 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นเนื้อที่ป่าประมาณร้อยละ 54.63 ของเนื้อที่ประเทศไทย
- ป่าที่สมควรจัดสรรเพื่อเกษตรกรรมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างอื่นประมาณ 51,196.32 ตารางกิโลเมตร
ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้นำข้อเสนอของคณะกรรมการสำรวจจำแนกประเภทที่ดินเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่ 17901/2504
ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2504 คือ
- ขอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้จังหวัดประกาศเขตป่าที่จะสงวนคุ้มครองและป่าที่จะเปิดจัดสรรเพื่อเกษตรกรรมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างอื่นที่คณุอนุกรรมการสำรวจ
จำแนกประเภทที่ดินประจำจังหวัดดำเนินการกำหนดเขตเสร็จไปในท้องที่ 60 จังหวัด (เว้น 10 จังหวัดภาคกลางที่ไม่มีเขตป่าไม้) โดยประมาณตามแผนที่ให้ราษฏร
และหน่วยราชการที่เกี่ยข้องทราบทั่วกัน
- ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการว่า บริเวณป่าที่เห็นสมควรกำหนดเป็นป่าสงวนคุ้มครองดังกล่าวในข้อ 1. เป็นป่ามี่จะรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ หากทบวงการเมืองใด
ประสงค์จะเข้าไปใช้ประโยชน์ จะต้องทำความตกลงกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และได้รับอนุมัติจะกคณะรัฐมนตรีเป็นรายๆไป
- ป่าที่เห็นสมควรเปิดจัดสรรเพื่อเกษตรกรรมและเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างอื่นตามที่กล่าวในข้อ 1. นั้น ให้จังหวัดและอำเภอท้องที่ดำเนินการจัดสรรให้ประชาชน
ตามโครงการและระเบียบว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อประชาชนของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติโดยไม่ต้องขอรับความเห็นชอบจากกระทรวงตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม 2502
- ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดลำดับความสำคัญของโครงการสำรวจจำแนกประเภทที่ดินทั่วประเทศโดยละเอียดซึ่งมีวัตถุประสงค์
ในการจัดทำ Survey for Use Classification ให้เป็นไปตามหลักวิชาการเป็นพิเศษเพราะโครงการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่ง จะเป็นประโยชน์แก่การวางโครงการพัฒนา
การเศรษฐกิจของชาติให้เป็นผลดียิ่งๆขึ้นไปในภายหน้า
คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2505 ลงมติเห็นชอบและให้ดำเนินการได้ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2506 ว่าเมื่อคณะกรรมการสำรวจจำแนกประเภทที่ดินได้ประมวลผลและจำแนกประเภทที่ดินโดยกำหนดพื้นที่ป่าไม้ที่เห็นสมควร
สงวนคุ้มครองโดยแน่นอนเสร็จในจังหวัดใดแล้ว ของให้เขตพื้นที่ป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๐๔ สำหรับท้องที่จังหวัดนั้นเป็นอันยกเลิก เพราะได้สำรวจเสร็จแล้วและให้ถือเขตพื้นที่ป่าไม้ตามที่คณะกรรมการสำรวจจำแนกประเภทที่ดินได้จำแนกไว้ส่วนที่ดินนอกเขตพื้นที่ป่าไม้ดังกล่าวให้ถือเป็นเขตที่ดินจัดสรรเพื่อ
การเกษตรกรรมและเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างอื่นซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยจะได้ดำเนินการต่อไปตามกฏหมายป่าไม้ถาวรเกิดขึ้นโดยมติคณะรัฐมนตรี
การยกเลิกเขตป่าไม้ถาวรจึงต้องทำโดยมติคณะรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน |